ดีดบ้านไทยรามัญ ถนนกาญจนาภิเษก
รีโนเวทบ้านไทยรามัญ ถนนกาญจนาภิเษก
ซ่อมบ้านทรุดไทยรามัญ ถนนกาญจนาภิเษก
รับดีดบ้านไทยรามัญ ถนนกาญจนาภิเษก
แบบบ้านไม้สองชั้นไทยรามัญ ถนนกาญจนาภิเษก
ดีดบ้านราคาไทยรามัญ ถนนกาญจนาภิเษก
ดีดบ้านไม้ไทยรามัญ ถนนกาญจนาภิเษก
รับยกบ้านไทยรามัญ ถนนกาญจนาภิเษก
แก้ไขบ้านทรุดไทยรามัญ ถนนกาญจนาภิเษก
การดีดบ้านไทยรามัญ ถนนกาญจนาภิเษก
เราเป็นผู้ชำนาญงานและเป็นหนึ่ง ในด้านบริการดีดบ้านไทยรามัญ ถนนกาญจนาภิเษกเลื่อนบ้าน , หมุนบ้าน , ดีดศาลา , ดีดโรงเรียน , ยกบ้าน , ยกศาลา , ยกโรงเรียน , ยกอาคารไม้ , ยกบ้านไม้ , ยกอาคารคอนกรีต ทุกประเภท
ด้วยทีมงานที่มีประสบการณ์ความชำนาญงานทางด้านนี้กว่า 20 ปี ยกบ้าน ดีดบ้านไทยรามัญ ถนนกาญจนาภิเษกรับแก้ปัญหาอาคารบ้านเรือนทั่วไปที่มีปัญหาฐานล่างที่ไม่มั่นคงเกิดอาการซุดแตกร้าว เนื่องจากเข็มไม่ได้
มาตรฐาน รับแก้ปัญหาที่เกิดพร้อมรับกดเข็มเสริมให้ใหม่ด้วยระบบไฮดรอลิก ด้วยระบบความแรงสูง ระยะความลึกไม่เกิน 21 เมตร โดยใช้เข็ม ไอ 18 พร้อมปัดระดับอาคารบ้านเรือน
ที่เกิดปัญหา พร้อมทำตะแกงเทฟุตติ้ง รับตัวอาคารให้ใหม่ ดีดบ้านราคาไทยรามัญ ถนนกาญจนาภิเษกทำงานด้วยความละเอียดรอบคอบ ระมัดระวัง ไม่เคยเกิดปัญหาขณะทำงานและหลังจากทำงานแล้วเสร็จ
ท่านจึงมั่นใจได้ว่าจะได้ช่างผู้ชำนาญทำงานให้กับท่านตัวจริง และได้งานที่มีมาตรฐาน และความปลอดภัยจากทางเรา หลังจากดีดบ้านขึ้นเรียบร้อยแล้ว
การดีดบ้านยกบ้านไทยรามัญ ถนนกาญจนาภิเษก
นั้นเป็นการตัดยกโครงสร้างบ้านทั้งหลังให้สูงขึ้น แล้วเสริมเสากับตัวบ้านใหม่ลงบนฐานรากเดิมหรือฐานรากใหม่ที่มีการเสริมความแข็งแรงเพิ่มขึ้น ซึ่งปกติจะต้องดำเนินการโดยวิศวกรผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น แต่ในช่วงหลังนี้ความต้องการในการดีดหรือยกบ้านมีมากขึ้น ประกอบกับค่าใช้จ่ายในการดีดหรือยกบ้านสำหรับบริษัทที่มีมาตรฐานในการทำงาน มักจะคิ
ดค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง เนื่องจากเป็นการทำงานที่ต้องอาศัยประสบการณ์สูงและมีความเสี่ยงค่อนข้างมาก ทำให้มีช่างที่เคยรับจ้างดีดหรือยกบ้านตามต่างจังหวัด ซึ่งมักจะเป็นบ้านไม้มารับจ้างยกบ้านตามประสบการณ์เดิมที่เคยทำกันมา แต่การดีดบ้านที่เป็นโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็กต่างจากการดีดบ้านไม้ค่อนข้างมาก เพราะน้ำหนักบ้านมีมากกว่าหลายเท่า และโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็กมีความยืดหยุ่นน้อยกว่าโครงสร้างไม้ ดังนั้น จึงมีข่าวการทรุดตัวของบ้านขณะทำการยกจนมีผู้เสียชีวิตมาแล้วหลายครั้ง ดังนั้น จึงอยากให้ข้อคิดในกรณีที่อยากจะดีดบ้าน ดังนี้
1. วิศวกรโครงสร้างที่มีความเชี่ยวชาญ สามารถดีดอาคารได้แทบทุกชนิด ทั้งโครงสร้างไม้, คอนกรีตเสริมเหล็ก หรือแม้แต่โครงสร้างเหล็ก แต่อาคารที่เหมาะในการยก คืออาคารเป็นหลังเดี่ยว
เช่น บ้านเดี่ยว ไม่เหมาะสำหรับตึกแถวหรือทาวน์เฮ้าส์ เพราะการดีดบ้านไทยรามัญ ถนนกาญจนาภิเษกจะต้องทำทั้งหลัง ไม่สามารถทำเฉพาะส่วนได้ ส่วนตึกแถวหรือทาวน์เฮ้าส์ หากต้องการทำ ต้องทำพร้อมกันทั้งแถว
2. การดีดหรือยกอาคารไทยรามัญ ถนนกาญจนาภิเษกตามกฎหมายแล้วถือเป็นการดัดแปลงอาคาร จำเป็นต้องมีการยื่นขออนุญาตต่อเจ้าพนักงานท้องถิ่น ซึ่งตามกฎหมายต้องมีวิศวกรออกแบบและควบคุมงาน
เพื่อรับผิดชอบการทำงานดังกล่าว
3. ระดับน้ำท่วมในปี 2554 ไม่ใช่ระดับน้ำท่วมที่สูงที่สุดเท่าที่จะมีได้ เนื่องจากน้ำท่วมดังกล่าวเกิดจากความผิดพลาดในการบริหารจัดการน้ำระดับประเทศ ดังนั้น หากเกิดความผิดพลาดขึ้นอีก
ไม่สามารถตอบได้ว่าน้ำจะท่วมในบริเวณเดิมอีกหรือไม่ หรือจะท่วมแค่ไหน อาจจะมากกว่าที่เคยท่วมก็ได้ เพราะหลังเหตุการณ์น้ำท่วมแล้ว ส่วนราชการในแต่ละพื้นที่ก็ต้องจัดทำแผน เพื่อป้องกันพื้นที่ของตนเอง ดังนั้น ไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่า หากยกบ้านหนีน้ำแล้ว ระดับที่ยกนั้นจะเพียงพอ
4. การดีดบ้านไทยรามัญ ถนนกาญจนาภิเษกขึ้นจะทำให้ต้องมีการเพิ่มบันได หรือทางลาดเพื่อขึ้นบ้าน ดังนั้น การใช้สอยของตัวบ้านจะผิดจากลักษณะในปัจจุบัน ซึ่งอาจไม่เหมาะสมสำหรับผู้สูงอายุในการเข้าถึงตัวบ้าน เนื่องจากต้องเดินขึ้นบันไดที่ตามความสูงมากขึ้น
5. ค่าใช้จ่ายในการดีดบ้านค่อนข้างสูง เคยมีผู้ประเมินไว้ว่าประมาณครึ่งหนึ่งของราคาค่าก่อสร้างบ้านใหม่ขนาดเท่ากับบ้านที่จะดีด ดังนั้น ท่านเจ้าของบ้านควรพิจารณาว่า การดีดบ้านเพื่อให้สูงขึ้น
แล้วได้บ้านเดิมสภาพเดิม เทียบกับการก่อสร้างบ้านใหม่เลย เพื่อให้ได้สภาพบ้านที่สมบูรณ์กว่า อย่างไหนคุ้มกว่ากัน
6. การดีดบ้านไทยรามัญ ถนนกาญจนาภิเษกจำเป็นจะต้องใช้วิศวกรโครงสร้างผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น แม้แต่วิศวกรบางท่านที่มีประสบการณ์ในการก่อสร้างทั่วไปก็ยังยากที่จะสามารถทำงานแบบนี้ได้ ดังนั้น
หากต้องการจ้างผู้มาดำเนินการดีดบ้าน ขอให้ตรวจสอบประสบการณ์และบุคลากรให้ดีว่าสามารถทำได้จริง แนะนำว่าควรขอข้อมูลของบ้านที่บริษัทเคยยก แล้วลองโทรไปคุยว่าการบริการเป็นอย่างไร
เพื่อเป็นข้อมูลในการพิจารณา
ถนนกาญจนาภิเษก (อักษรโรมัน: Thanon Kanchanaphisek) หรือ ถนนวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร ซึ่งมีระยะทางส่วนใหญ่เป็น ทางหลวงพิเศษหมายเลข 9
เป็นถนนสายสำคัญที่มีเส้นทางเชื่อมต่อกันเป็นวงแหวนล้อมรอบตัวเมืองกรุงเทพมหานคร จังหวัดนนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการ รวมถึงผ่านจังหวัดพระนครศรีอยุธยาด้วย
มีระยะทางตลอดทั้งสายรวม 168 กิโลเมตร
ถนนสายนี้สร้างขึ้นเพื่อแก้ปัญหาการจราจรที่ติดขัดในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลที่มีปริมาณการจราจรและการขนส่งเพิ่มขึ้น อันเป็นผลจากความเจริญเติบโต
ทางเศรษฐกิจ และเป็นทางเลี่ยงเมืองกรุงเทพมหานครที่เป็นตัวเชื่อมทางสายหลักเข้าไปสู่ทุกภาคของประเทศ เริ่มก่อสร้างครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2521 ในช่วงตลิ่งชัน–บางบัวทอง[1]
จนเสร็จสมบูรณ์ครบทุกส่วนในปี พ.ศ. 2550 โดยตลอดทั้งสายมีสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาทั้งหมด 2 แห่ง ได้แก่ สะพานเชียงราก จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และสะพานกาญจนาภิเษก
จังหวัดสมุทรปราการ